รถสปอร์ตแตกต่างจากรถทั่วไปอย่างไร
เคยรู้สึกสงสัยกันไหมว่าระหว่างรถสปอร์ตกับรถยนต์ส่วนตัวทั่วไปนั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร ทำไมถึงมีการแบ่งระหว่างรถทั่วไปกับรถสปอร์ต แน่นอนว่าหลายท่านก็คงอยากรู้ความแตกต่างกันใช่ไหม ซึ่งแม้ว่าจะเป็นรถเก๋งเหมือนกัน แต่แบรนด์รถยนต์แต่ละแบรนด์กลับจัดหมวดหมู่แยกกันระหว่างรถยนต์ส่วนตัวและรถยนต์ที่เป็นรถสปอร์ต เนื่องจากรถทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันนั่นเอง เราจึงจะต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนที่จะซื้อรถสักคันว่าที่จริงแล้วเราเหมาะสำหรับขับรถสปอร์ตหรือเหมาะแค่ซื้อรถส่วนตัวทั่วไปก็พอแล้ว ดังนั้นก่อนที่เราจะไปเลือกซื้อรถกันนั้น มาเรียนรู้กันก่อนว่ารถทั้งสองแบบมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง
สิ่งที่ทำให้รถสปอร์ตนั้นโดดเด่นกว่ารถส่วนตัวทั่วไปก็คือรถสปอร์ตจะมีแรงม้าไม่ต่ำกว่า 600 โดยจะมีอัตราเร่งจาก 0 – 100 ในเวลาไม่เกิน 4 วินาทีเท่านั้น โดยทั่วไป อาจใช้เวลา 3 วินาทีก็สามารถเร่งเครื่องให้วิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้แล้ว ในขณะที่การขับรถส่วนตัวทั่วไปนั้น จะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าในการที่จะเร่งเครื่องให้เร็วทันใจ จึงช่วยให้เราขับได้สะดวกกว่ามาก ทั้งนี้รถสปอร์ตนั้นจะมีการออกแบบโครงสร้างให้มีน้ำหนักเบา โดยหลายๆรุ่นก็มักจะเลือกใช้อะลูมิเนียมเป็นโครงสร้าง เพื่อที่จะช่วยให้รถมีน้ำหนักเบาและควบคุมได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น จึงทำให้คนที่ขับรถสปอร์ตนั้นรู้สึกได้ว่ามันคล่องตัวกว่ามาก
ซึ่งการออกแบบโครงสร้างและส่วนของห้องโดยสารในตัวรถสปอร์ตนั้น จะมุ่งเน้นในการเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ พร้อมทั้งช่วยให้คนขับรู้สึกสบายในระหว่างที่ขับขี่ ทำให้คนที่เลือกขับรถสปอร์ตนั้นไม่ได้รู้สึกเหนื่อยแม้จะเดินทางไกล แตกต่างจากคนที่ขับรถทั่วไปที่รู้สึกเหนื่อยกว่ามาก อาจจะต้องหยุดพักกลางทาง เพราะการขับรถส่วนตัวทั่วไปนั้น ตัวรถไม่ได้มีสมรรถนะที่สูง และยังมีแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน จึงไม่แปลกที่ทำให้คนขับรู้สึกเหนื่อย สำหรับรถสปอร์ตนั้นตัดปัญหาเหล่านี้ออกไปได้เลย ทำให้เรารู้สึกได้เลยว่ามันขับนิ่วกว่ามาก การเดินทางจึงไม่ได้เหนื่อยและยังช่วยให้เราขับสนุกอีกด้วย เพราะรถสปอร์ตนั้นมักจะมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม
ดังนั้นหากท่านใดที่ต้องใช้รถสำหรับเดินทางไกลบ่อยๆ ไม่อยากเหนื่อยในระหว่างการเดินทาง การเลือกซื้อรถสักคันนั้น ควรเน้นเลือกซื้อรถสปอร์ตเพื่อที่จะช่วยให้ท่านไม่เหนื่อยล้าเกินไป แต่หากใครที่ต้องการรถมาใช้สอยทั่วไป อาจจะขับไปทำงานใกล้บ้าน แน่นอนว่ารถส่วนตัวทั่วไปก็ถือว่าเพียงพอแล้ว