รถคลาสสิค เลือกสีไหนดูหรูที่สุด
หลายคนที่กำลังคิดจะซื้อรถสักคัน แน่นอนว่าเราจะต้องพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง ยิ่งคนที่จะซื้อรถคลาสสิค แน่นอนว่าจะต้องให้ความสำคัญกับการพิจารณาหลายๆปัจจัย เพราะเราคาดหวังที่จะเก็งกำไรและนำกลับมาขายในราคาที่สูงกว่าเดิมในอนาคต ทำให้เราจะต้องมีวิธีในการเลือกรถที่มีโอกาสช่วยให้เราขายต่อได้ราคาที่สูงที่สุด โดยในการเลือกรถคลาสสิคสักคันมาขับเพื่อเอาไว้ขายต่อให้ได้กำไรนั้น ทราบกันหรือไม่ว่าสีของรถมีความสำคัญ สีแต่ละสีได้รับความนิยมแตกต่างกันและส่งผลต่อความรู้สึกไม่เหมือนกัน บางสีช่วยให้คนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถ สามารถตัดสินใจได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น แต่บางสีอาจทำให้คนที่อยากได้รถกลับไม่กล้าที่จะขับรถคันนั้น ดังนั้นมาดูกันว่าในการเลือกรถคลาสสิคสักคันนั้น เราควรเลือกเป็นสีอะไรที่ดูหรูหราและสามารถขายต่อได้ราคาดีบ้าง
โทนสีดำและสีน้ำตาลเข้มเป็นโทนสีที่เหมาะที่สุดสำหรับคนที่อยากจะได้รถคลาสสิคที่ยังดูหรูดูแพงแม้เวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน เพราะยังเป็นสีที่เรียบโก้ ไม่หวือหวา ทำให้รถยังดูใหม่และดูเท่ห์อยู่เสมอ เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ทำธุรกิจหรือกลุ่มคนที่คาดหวังเอาไว้แล้วว่าวันหนึ่งที่ต้องการนำรถมาขายต่อนั้น ก็สามารถที่จะขายต่อได้ในราคาที่สูงไม่ต่างจากราคาที่ซื้อมาหรือขายได้กำไรมากกว่าเดิม คนทั่วไปไม่รู้สึกติดขัดกับรถโทนสีดำหรือโทนสีน้ำตาลกันอยู่แล้ว จึงทำให้เป็นรถที่มีสภาพคล่องค่อนข้างดี ซื้อง่ายขายคล่อง แม้บางครั้งจะเป็นรถที่ตั้งราคาสูงกว่าตลาด แต่หากเป็นรถโทนสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มนั้น สุดท้ายแล้วเราก็สามารถที่จะขายรถคลาสสิคคันนั้นออกไปได้อยู่ดี
โทนสีที่หวือหวานั้นไม่เหมาะสำหรับโทนสีของรถคลาสสิค เพราะในทางจิตวิทยานั้น หากรถคลาสสิคมีโทนสีหวือหวา สีแดง สมชมพู หรือสีที่สว่างสะดุดตามากๆ แน่นอนว่าจะทำให้รถคันนั้นโดดเด่นขึ้นมาเป็นที่จับตามองของคนมากมายก็จริง แต่แน่นอนว่ารถคันนั้นจะเป็นที่สะดุดตาในเวลาสั้นๆเท่านั้น เพราะผู้คนจะตื่นตาตื่นใจกับมันแค่ครั้งสองครั้ง หลังจากนั้นจะรู้สึกเฉยๆทำให้รถของเราดูเก่าไปเลย โทนสีที่มีความหวือหวามากๆจึงไม่เหมาะสำหรับรถคลาสสิคที่ต้องการซื้อมาลงทุนในระยะยาว ในขณะที่โทนสีเข้มยังเป็นโทนสีที่ช่วยให้รถยังมีมูลค่า แม้เราจะใช้รถนานแค่ไหน แต่พอเอาไปล้างทำความสะอาดก็ทำให้รถของเรากลับมาดูใหม่ได้อีก
